ในปัจจุบัน มีผู้ให้บริการรับทำโฆษณา Google Adwords อย่างมากหลาย บ้างก็เป็น Agency ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่บริหารจัดการ Google Adwords มาอย่างยาวนาน บ้างก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่พึ่งจะลองบริหารจัดการ Google Adwords เพียงไม่กี่ครั้งและมีประสบการณ์และความรู้ความสามารถเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับ Google Adwords ราคาในการช่วยบริหารจัดการ Google Adwords จึงมีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น
ทุกคนสามารถบริหารจัดการโฆษณา Google Adwords ได้ด้วยตนเอง แต่สิ่งที่แตกต่างคือความคุ้มค่าและต้นทุนการโฆษณาในระยะยาว รวมถึงการแสดงผลข้อมูลในการแสดงโฆษณาจะแต่งต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของผู้บริหารจัดการโฆษณา Google Adwords รายนั้นๆ
บางโฆษณามีพื้นที่ในการแสดงผลโฆษณาเพียง 3 บรรทัด ในขณะที่บางรายมีพื้นที่ในการแสดงผลโฆษณาถึง 6-10 บรรทัด ข้อแตกต่างคือ ราคาต่อคลิ๊กที่ใกล้เคียงกันหรือในบางครั้งราคาต่อคลิ๊กถูกกว่าด้วยซ้ำแต่กลับได้พื้นที่การแสดงผลที่มากกว่า ซึ่งเหล่านี้คือความคุ้มค่าเบื้องต้นที่เห็นได้โดยง่ายในการโฆษณา Google Adwords
บางโฆษณา มีปุ่ม Call ให้ลูกค้าสามารถโทรหาได้เลย, บางโฆษณา มีปุ่มแสดงแผนที่ตั้งและสามารถนำทางได้โดย Google map, บางโฆษณามี Link ย่อยๆในตัวโฆษณาหรือที่เรียกกันว่า Site Links, บางโฆษณามีเรตติ้งและรีวิว เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้นอกจากจะได้พื้นที่โฆษณาที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าของคุณและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรของคุณมากขึ้นอีกด้วย
ในเชิงลึกแล้ว การปรับแต่งค่าต่างๆ ในระบบของ Google Adwords มีผลอย่างมากต่อต้นทุนของคุณในระยะยาว
ตัวอย่าง
นาย A และนาย B เป็นคู่แข่งกัน โดยขายโต๊ะ ตัวละ 3,000 บาท ต้นทุนทุกอย่างของนาย A และนาย B ไม่ว่าจะเป็นการผลิต, เงินเดือนพนักงาน, ค่าวัตถุดิบและค่าอื่นๆ ยกเว้นค่าโฆษณาเท่ากัน คือ 2,000 บาทต่อโต๊ะ 1 ตัว ดังนั้น นาย A และนาย B จะมีกำไรต่อโต๊ะ 1 ตัวที่ขายได้ที่ 1,000 บาทเท่ากัน
นาย A และนาย B ต้องการลงโฆษณากับ Google Adwords เพื่อให้คนรู้จักและซื้อโต๊ะกับตน
- นาย A ลงทุนจ้างนาย X ที่ราคา 1,000 บาทต่อเดือน
- ส่วนนาย B ลงทุนจ้างนาย Y ที่ราคา 5,000 บาทต่อเดือน
หลังจากผ่านไปเดือนแรก นาย X และ นาย Y สามารถขายโต๊ะให้นาย A และ นาย B เท่ากันที่ 20 ตัว แต่นาย X ใช้งบประมาณในการโฆษณาไปทั้งสิ้น 20,000 บาท แต่นาย Y ใช้งบประมาณในการโฆษณาไปทั้งสิ้น 10,000 บาท
เมื่อนำมาคำนวนต้นทุนและกำไรที่แท้จริงแล้วจะได้ดังนี้
- นาย A มีต้นทุนการโฆษณา 20,000 บาท บวกกับค่าบริหารจัดการ 1,000 บาท รวมเป็น 21,000 บาท ขายโต๊ะได้ทั้งสิ้น 20 ตัว จึงมีกำไรจากการขาย 1,000 บาท * 20 ตัว เท่ากับ 20,000 บาท เมื่อหักลบกับต้นทุนโฆณาแล้วจึงเท่ากับ 20,000 – 21,000 บาท = -1,000 บาท (ขาดทุน 1,000 บาท)
- นาย B มีต้นทุนการโฆษณา 10,000 บาท บวกกับค่าบริหารจัดการ 5,000 บาท รวมเป็น 15,000 บาท ขายโต๊ะได้ทั้งสิ้น 20 ตัว จึงมีกำไรจากการขาย 1,000 บาท * 20 ตัว เท่ากับ 20,000 บาท เมื่อหักลบกับต้นทุนโฆษณาแล้วจึงเท่ากับ 20,000 – 15,000 บาท = 5,000 บาท (กำไร 5,000 บาท)
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ถึงแม้จะจ้างนาย X ซึ่งมีราคาถูกกว่านาย Y มาก แต่สุดท้ายกลับขาดทุนเพราะนาย X แต่กำไรเพราะนาย Y
ในระยะยาว ต้นทุนกำไรดังกล่าว จะถูกทบไปเรื่อยๆ ดังนั้น ในการเลือกผู้ให้บริการับทำโฆษณา Google Adwords จึงไม่ควรเลือกที่มีค่าบริหารจัดการในราคาที่ถูกเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ในการทำโฆษณา Google Adwords ที่ดีนั้น ควรมีการทำ Conversion Tracking เพื่อติดตามผล ประเมินผลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญต่างๆ การทำ Conversion Tracking จะช่วยคุณคำนวนและประเมินผลกิจกรรมต่างๆที่กระทำกับเว็บไซต์ของคุณ เช่น การสั่งซื้อ, การกรอกฟอร์ม เป็นต้น
คำถาม คือแล้วเราจะมีหลักการในการเลือกผู้ให้บริการับทำโฆษณา Google Adwords อย่างไร
สามารถแบ่งและคัดกรองเบื้องต้นได้ดังนี้
- ผู้ให้บริการรับทำโฆษณา Google Adwords นั้นเป็น Google Certified Partner หรือไม่
ถามว่า Google Certified Partner นั้นคืออะไรและสำคัญอย่างไร คำตอบสั้นๆคือ Google Certified Partner เป็นผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบและทดสอบเป็นรายปีจาก Google โดยตรง จึงสามารถการันตีได้เบื้องต้นว่า ผู้ให้บริการดังกล่าว มีความรู้ความสามารถที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการ Google Adwords โดยสามารถเชค Google Certified Partner ได้ที่ https://www.google.com/partners/#h_a หรือมองหาสัญลักษณ์
- ผู้ให้บริการดังกล่าว สามารถตอบคำถามของคุณ อธิบายแนวทางเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของคุณและสามารถอธิบายข้อสงสัยต่างๆให้คุณเข้าใจได้หรือไม่ ซึ่งเหล่านี้เป็นการเชคเบื้องต้นได้ว่า ผู้ให้บริการรับทำโฆษณา Google Adwords รายนั้นๆ มีความรู้เกี่ยวกับ Google Adwords มากน้อยเพียงใด
- ขอดูผลงาน การทำ Google Adwords ที่ผ่านมาของผู้ให้บริการรับทำโฆษณา Google Adwords รายนั้นๆ มีการทำ Conversion Tracking หรือไม่ ซึ่งหากมีการทำ ระบบจะมีการคำนวนต้นทุนต่อ Conversions ในตัวสถิติที่แสดงผล รวมถึงลองดูตัวโฆษณาในระบบว่ามีการแสดงผล Extensions ต่างๆหรือไม่ เช่น ปุ่ม Call, ตัวแสดงแผนที่, Link ย่อย, Site Links, เรตติ้ง, รีวิวหรือไม่ ซึ่งแสดงถึงคุณภาพของการแสดงโฆษณาในระบบ
3 ข้อเบื้องต้นนี้ จะช่วยให้คุณสามารถคัดกรองคุณภาพของผู้ให้บริการรับทำโฆษณา Google Adwords ของคุณได้ในเบื้องต้น แต่ในเชิงลึกแล้วคุณจำเป็นต้องสอบถามและใช้การตัดสินใจด้วยตัวของคุณเอง